ซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์และการปฏิวัติที่กำลังจะมา

การปฏิวัติของหุ่นยนต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว! คำถามคือความรู้และทักษะต่างๆที่เราเรียนรู้จากโรงเรียนจะยังสามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพให้กับเราได้อยู่หรือไม่? แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกไป ข่าวดี…เราจะยังสามารถพัฒนาความได้เปรียบของเราได้ อาทิ ซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์ หรือทักษะด้านสังคม เป็นต้น อ่านต่อไปเพื่อค้นหาว่าทักษะอะไรที่พาคุณผ่านพ้นการปฏิวัติครั้งนี้ได้

No comments

โลกแห่งจินตนาการในอดีต อย่าง รถไร้คนขับ เครื่องบินที่บินเองได้ หุ่นยนต์ช่างซ่อม และเครื่องจักรที่สามารถซ่อมบำรุงตัวเองได้ ไม่ใช่นวนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไปในทุกวันนี้ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง มีความฉลาดเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะเครื่องจักรกลสอนตัวเองให้พัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและไม่ง้อมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์การแปลของกูเกิล มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเจนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อกูเกิลเปลี่ยนอัลกอริธึมให้ซอฟต์แวร์สามารถเรียนรู้ภาษาต่างๆ อย่าง ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจีนได้ด้วยตัวของมันเอง ในอุตสาหกรรมเพลงตอนนี้มีโปรแกรม “Deep Artificial Composer” ซึ่งสามารถแต่งเพลงใหม่ขึ้นมาได้เองเป็นครั้งแรก จากการถูกสอนให้รู้จักทำนอง เรียนรู้กฎการประพันธ์เพลงที่ดี และแต่งเพลงขึ้นมาเอง ขณะเดียวกันฮาร์ดแวร์ของหุ่นยนต์มีขนาดเล็กลง ยืดหยุ่นได้สูงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นผลให้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและได้ผลมากขึ้น

งานหลายตำแหน่งที่หลายคนคิดว่าปลอดภัยกำลังจะถูกยึดโดยเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เว็บไซต์ มาร์เกตวอช (Market Watch) ของสำนักข่าวดาว โจนส์ เพิ่งเผยแพร่บทความเรื่อง 10 งานที่หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่ามนุษย์ อันประกอบด้วย คนเช็คสต็อคสินค้า บาร์เทนเดอร์ ทหาร เภสัชกร เกษตรกร หน่วยกู้ระเบิด นักข่าว แม่บ้าน ผู้ช่วยทนายความ พนักงานธนาคาร รายงานของแมคคินซีย์ ระบุว่า “หลังจากที่สัญญาและโฆษณามาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดการเรียนรู้ของเครื่องจักรก็แตะส่วนแนวตั้งของเส้นโค้งค่าเอ็กซ์ คอมพิวเตอร์กำลังเข้ามาแทนที่แรงงานมีฝีมือในด้านต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรม การบิน กฎหมาย การแพทย์ และธรณีวิทยาปิโตรเลียม อีกทั้งกำลังเปลี่ยนลักษณะของงานในหลากหลายงานและอาชีพ ดีพ โนว์เลดจ์ เวนเจอร์ส บริษัทร่วมทุนในฮ่องกง ได้พัฒนาไปไกลถึงขึ้นเขียนอัลกอริธึมช่วยคณะกรรมการของบริษัทในการตัดสินใจ”

robotsarecoming

เราจะรับมือการปฏิวัติวิธีการทำงานในโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ได้อย่างไร? จากวันที่อ่อนวัยที่สุดในโรงเรียน เราได้เรียนรู้ “ฮาร์ด สกิลส์” หรือทักษะด้านความรู้ของความรู้เชิงเทคนิคและความสามารถที่เราหวังว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างอาชีพให้กับเราในวัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมรถยนต์ การบินเครื่องบิน การออกแบบตึก การทำร้านอาหาร การเขียนข่าว หรือการรักษาคนไข้ เป็นต้น กระนั้น ในปัจจุบันหุ่นยนต์เอไอเรียนรู้และทำงานที่ใช้ฮาร์ดสกิลส์ได้แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคต

บางทีอาจยังไม่ถึงเวลาที่จะตื่นตระหนกตกใจ เพราะฮาร์ดสกิลส์หลายทักษะยังใช้ได้อยู่และมีเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ดี หรือบางทีอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร ความพ่ายแพ้ของแชมป์หมากรุกโลก อย่าง คาสปารอฟ ต่อดีพ บลู ของไอบีเอ็ม แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของเครื่องจักรเหนือมนุษย์ และประสบการณ์ต่อมาได้แสดงให้เห็นว่าทีมงานของมนุษย์ที่ร่วมมือกับเครื่องจักรเอาชนะโปรแกรมหมากรุกที่ดีที่สุดได้

kasparov-vs-ibm-deep-blue-640x414
คาสปารอฟเล่นหมากรุกแข่งกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดีพบลูของไอบีเอ็ม และเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ Source

โชคดีที่ทักษะในการประกอบอาชีพที่เราเรียนรู้ไม่ใช่ข้อได้เปรียบข้อเดียวที่เรามีในฐานะมนุษย์ ยังมีอีกส่วนที่เครื่องจักรเอไอไม่สามารถทำแทนเราได้ นั่นคือ สิ่งที่ผมเรียกว่า “ซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์” หรือทักษะด้านสังคม เป็นทักษะที่สามารถถ่ายทอดจากอาชีพหรือทักษะทางเทคนิคหนึ่งไปสู่อีกอาชีพหรือทักษะทางเทคนิคหนึ่งได้ และปกติมีการสอนกันทางอ้อมในระบบการศึกษาที่เป็นทางการของเรา แนวคิดนี้เกิดจากการรวม “ซอฟต์ พาวเวอร์” หรืออำนาจทางสังคม ซึ่งเป็นคำศัพท์เชิงรัฐศาสตร์ และไอเดียเรื่อง “ซอฟต์ สกิลส์” หรือทักษะด้านสังคม เข้าด้วยกัน

คำว่า “ซอฟต์ พาวเวอร์” ถูกคิดขึ้นโดยนักรัฐศาสตร์ โจเซฟ เอส. เนย์ จูเนียร์ เพื่ออธิบายประเภทของอำนาจในประเทศ สำหรับเนย์ ความหมายของอำนาจโดยทั่วไป คือ “การมีอิทธิพลต่อเหนือพฤติกรรมของคนอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ในแง่พฤติกรรมแล้วซอฟต์ สกิลส์เป็นอำนาจที่น่าสนใจ”[1] เขาอธิบายซอฟต์ สกิลส์ของแต่ละบุคคลว่า ขึ้นอยู่กับทักษะในเรื่อง “ความฉลาดทางอารมณ์ วิสัยทัศน์ และการสื่อสาร….”

คำว่า “ซอฟต์ สกิลส์” มีต้นกำเนิดมาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซึ่งคุ้นเคยกับการใช้คำว่า ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์) และกลายเป็นคำพูดติดปากที่มีคำจำกัดความมากมายในแวดวงธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และจิตวิทยาในทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้วซอฟต์ สกิลส์แบ่งออกเป็นทักษะที่เกี่ยวกับการรับรู้และการควบคุมตัวเอง รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีร่วมกัน

ทั้งนี้ ผมนิยาม “ซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์” ว่าเป็นเครื่องมือในการควบคุมตัวเอง สร้างคุณธรรมและคุณค่าที่ดี รวมถึงความคิดสร้างสรรค์เพื่อใช้ในการสื่อสารและดึงดูดให้เพื่อนมนุษย์คนอื่นหันมาสร้างผลลัพธ์ที่มีความหมายและเป็นบวก คำจำกัดความนี้สามารถขยายและเปลี่ยนแปลงได้ตามการค้นหาความหมายของแนวคิดนี้ของเราในอนาคต รายการต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์​ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้นกว่าคำจำกัดความเพียงอย่างเดียว :

• ความฉลาดทางอารมณ์ คือความสามารถเข้าใจและควบคุมความรู้สึกของตัวเอง

• ความฉลาดทางสังคม หรือความสามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น

• ปฏิภาณไหวพริบ ความสามารถในการนำทรัพยากรที่มีอยู่ไปใช้ปรับปรุงและแก้ปัญหาได้

• การผนึกรวมหลักการและคุณค่าเชิงบวกที่น่าดึงดูดใจเข้าไว้ด้วยกัน

• แสดงออกพฤติกรรมที่ถูกต้องและมีจริยธรรม

• การรับรู้สถานการณ์ ความสามารถในการจับคู่สิ่งที่คุณเห็นว่ากำลังเกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

• สติ ความสามารถในการหยุดคิดหลังจากมีการกระตุ้น ก่อนที่เราจะตอบสนองโดยอัตโนมัติ และให้ความสำคัญกับความสนใจของเราเพื่อตอบสนองอย่างรอบคอบ

• ความสามารถในการมองเห็นความเป็นจริงที่น่าพอใจ

• ความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งของหรือเหตุการณ์ต่างๆที่ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

• ความสามารถในการเห็นรูปแบบและเปลี่ยนแปลงรูปแบบ

• ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

• ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล กำหนดความจริง จัดลำดับความสำคัญ กรองเสียงรบกวน และผลิตข้อมูลที่สั้น กระชับ น่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้งานได้จริง

• ความสามารถในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

• ความสามารถในการทำให้ผู้อื่นสนใจแนวคิดและวิสัยทัศน์ของคุณได้

• ความสามารถในการเล่าเรื่องได้อย่างมีเสน่ห์และจูงใจให้สื่อสารด้วยอำนาจที่น่าเชื่อถือและแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่

• ความสามารถในการกระตุ้นให้ตัวเองและคนอื่นลงมือทำสิ่งดีๆ

• ความสามารถในการประเมินจุดแข็งของคนอื่นและจัดวางคนให้เหมาะสมกับงาน

• ความสามารถในการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์

• สุภาพ

• มีชั้นเชิง

• อารมณ์ดี

• ทำงานเป็นทีมได้

• ความสามารถในการเจรจาต่อรอง

ทักษะเหล่านี้ทั้งหมดสามารถนำมาใช้กับผู้นำและคนอื่นๆอีกมากมายได้ การเรียนรู้ซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์ นอกจากปรับปรุงชีวิตเราแล้วยังเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราให้ดีขึ้นด้วย ทักษะเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้ เหมือนวิชาสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ชีววิทยา และจิตวิทยา ซึ่งมีความก้าวหน้าที่ช่วยให้เราเข้าใจวิธีเรียนรู้และการใช้ทักษะ อันดามัน อินสไปเรชั่นส์ ให้ความสำคัญกับการช่วยให้ผู้อ่านพัฒนาซอฟต์ พาวเวอร์ สกิลส์ การกรองเสียงรบกวนและข้อมูลที่มีมากเกินไปให้เหลือเพียงข้อมูลที่กระชับและนำไปใช้งานได้จริง ผมหวังว่าจะกระตุ้นและสนับสนุนให้เกิดการพูดคุยที่นำไปสู่การพบปะและชนะการปฏิวัติที่รออยู่ข้างหน้า

[1] Nye, Joseph S., Jr., Soft Power: The Means to Success in World Politics. New York: PublicAffairs, 2004, p. 2.

Bird _circle2

Copyright © 2017 by Robert Cummings All rights reserved.

Leave a Reply